วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

 
ตามรอยพ่อ
“ การทำดีนั้นยากและเห็นผลช้า
แต่ก็จำเป็นต้องทำ
เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่
และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
แต่ละคนจึงต้องตั้งใจ
และเพียรพยายามให้สุดกำลัง
ในการสร้างเสริมและสะสมความดี ”
(พระบรมราโชวาท)
 
คำสอนของพ่อที่ทรงพระราชทานให้แก่พสกนิกรของพระองค์นั้น ทำให้เราได้ระลึกอยู่เสมอว่า  คนดีคือ คนที่คิดดี  พูดดี  และ โดยเฉพาะการทำดีเป็นการแสดงออกทางการประพฤติปฏิบัติอันเห็นได้อย่างชัดเจน ในภาวะปัจจุบัน  ที่มีแต่การแก่งแย่งกอบโกย  เห็นแก่ตัว  และละโมบหาความสุขเพียงลำพัง หากใครสักคนลุกขึ้นมาเป็นผู้ให้   ปลุกจิตสำนึกของการให้ซึ่งกันและกันแล้ว  ความสุขที่ขาดหายไปในแต่ละบุคคลก็จักได้ถูกเติมเต็มด้วยน้ำใจคนไทยด้วยกัน คณะนักศึกษาวิชาทหารและนักเรียนผู้ถือสัญชาติไทย  โรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.อ. คชาชาต บุญดี  ผู้บังคับศูนย์การฝึก นศท. มทบ.33  จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันทำความดีตามโครงการ “ ทำดีเพื่อพ่อ ” เพื่อสะท้อนถึงความจริงที่พ่อได้เพียรสอนให้มองเห็นคุณค่าของ “ การทำความดี ”  และ “ การให้ ” เมื่อสังคมมนุษย์มีการให้ซึ่งกันและกันแล้ว   ความสุขและสันติภาพก็จักบังเกิดขึ้นแก่สังคม

โครงการ “ ทำดีเพื่อพ่อ ”  เป็นเพียงแค่เม็ดดินเล็ก ๆ  ที่ปะปนเกลื่อนกล่นอยู่บนผืนดินนี้ หล่อเลี้ยงความยากแค้นขาดแคลนด้วยน้ำใจไม่กี่หยด แต่ก็สามารถช่วยบรรเทาความแห้งแล้งนั้นให้เบาบางลงได้   วันที่ 2 – 4 มกราคม 2550 คณะนักศึกษาวิชาทหารและนักเรียนผู้ถือสัญชาติไทย   โรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ ได้เดินทางไปมอบผ้าห่มและเครื่องกันหนาวให้แก่พี่น้องไทยและทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย – พม่า ณ หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 จ.แม่ฮ่องสอน   รวมจำนวนทั้งสิ้น 29 คน เดินทางไปและกลับจากเชียงใหม่สู่แม่ฮ่องสอน  โดยสายการบินนกแอร์ และ  ได้รับการต้อนรับ ดูแลอย่างอบอุ่นจากทหาร ฉก. ร 7  ตลอด 3 วันอย่างน่าประทับใจยิ่ง นอกจากการร่วมทำกิจกรรมมอบผ้าห่มและเครื่องกันหนาวแล้ว  ทางคณะฯได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ๆ หลายแห่งของแม่ฮ่องสอน  สักการะพระธาตุดอยกองมู  ท่ามกลางความหนาวเหน็บของยามเช้า เยี่ยมหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว  ณ บ้านใหม่ในสอย  ศึกษาวิถีธรรมชาติที่ถ้ำปลา  และสัมผัสกลิ่นโคลนสปา ณ ภูโคลน ฯลฯ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้   ล้วนเป็นประสบการณ์อันยากจะลืมเลือน และไม่สามารถจะหาอ่านได้ในบทเรียนใด ๆ ในโลก

เมื่อเราเริ่มทำโครงการในระยะแรก   เราถือกล่องที่ช่วยกันทำขึ้นมาเองตามประสาเด็ก ๆ เดินขอรับบริจาคไปตามท้องถนน  ย่านการค้า  ตลาด  รวมถึงในค่ำคืนที่พลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยว  ณ ถนนคนเดิน   บางวันได้มาก   บางคืนได้น้อย   สุดแต่ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาค คุณค่าของการทำงานมิใช่อยู่ที่จำนวนเงินที่ได้มา แต่อยู่ที่จิตสำนึกและความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จอย่างดีที่สุด  อยากได้เงิน  อยากให้ทหารได้อบอุ่น อยากให้พี่น้องที่ด้อยโอกาสได้รับทราบถึงความห่วงใย  และที่สำคัญคือ  อยากทำสิ่งดี ๆ เพื่อให้พ่อหลวงได้ภูมิใจ   วันนี้.....ผ้าห่มและชุดกันหนาวจำนวน 600 ชิ้น ได้เดินทางถึงมือผู้รับเป็นที่เรียบร้อย  โดยความร่วมมือและความช่วยเหลือของทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 จ. แม่ฮ่องสอน   พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไปผ้าห่มและชุดกันหนาวอีก 400 ชิ้น อันเป็นเป้าหมายใหม่ของการรณรงค์ขอรับเงินบริจาคในครั้งต่อไป  ก็จะเดินทางสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน ขอบพระคุณผู้ปกครอง  นักเรียน  คณะอาจารย์  ศูนย์การฝึก นศท. มทบ. 33 จ.เชียงใหม่ และคนไทยทุกท่านที่ช่วยสละทุนทรัพย์เพื่อนำไปซื้อสิ่งของต่าง ๆ เพื่อมอบความอบอุ่นแก่พี่น้องไทยและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้าอย่างเข้มแข็ง

ท้ายที่สุดนี้ ขออำนาจแห่งคุณงามความดีของพวกท่านทั้งหลาย ตลอดจนอำนาจแห่งความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ ในฐานะพระองค์ท่านทรงเป็นจอมทัพไทยและเป็นดั่งพ่อของแผ่นดิน จงโปรดทรงดลบันดาลพระราชทานพรให้ทุกท่าน  จงประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป และขอสวัสดีปีใหม่ 2550แด่ทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

 

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน

ปัจจุบัน ทุกคนคงทราบดีว่าสิ่งแวดล้อมได้ถูกทำลายลงทุกวัน และทุกคนก็คงทราบกันดีว่าอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งที่ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปและแย่งลงทุกๆวันจนก่อให้เกิด “ภาวะโลกร้อน” ก็คือป่าไม้ถูกทำลายนั่นเอง ทำให้ปริมาณป่าไม้ในทุกๆประเทศของโลกลดน้อยลง 
ออยสก้า (ประเทศไทย) เป็นเพียงหน่วยงานเล็กๆที่อยากเห็นคนไทยทุกคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และมาช่วยกันทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และถ้าเราทุกคนช่วยกันเชื่อได้เลยว่าสิ่งแวดล้อมต้องดีขึ้นกว่าเท่าที่เป็นอยู่ทุกวันที่ มูลนิธิฯ จึงจัดทำโครงการ “ปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน” ขึ้นมา ซึ่งเป็นโครงการขอความร่วมมือให้การสนับสนุนพันธุ์ไม้ต้นละ 500 บาท จากบุคคลทั่วไปที่สนใจ โดยเริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2549 ที่โรงเรียนชัยนาทพิทยาคม 2 จังหวัดชัยนาท ลักษณะของการดำเนินงาน ทางมูลนิธิฯ จะทำการคัดเลือกสถานที่ที่มีความเหมาะสมและสามารถดูแลรักษาต้นไม้ได้เป็นอย่างดี ดำเนินการปลูกต้นไม้และให้ทางโรงเรียนบำรุงดูแลรักษาภายใต้การดูแลของมูลนิธิฯ  ปัจจุบันโครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่สนใจ และได้ทำการปลูกต้นไม้ไปแล้ว 468 ต้น ในจังหวัดอยุธยา ชัยนาท และสุรินทร์  หากท่านสนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ ท่านสามารถดูรายละเอียดและสอบถามข้อมูลมาที่มูลนิธิฯ ได้ ทั้งนี้ หลังจากที่ท่านได้ให้การสนับสนุนแล้ว ทางมูลนิธิฯก็จะดำเนินการปลูกต้นไม้ และนำชื่อของท่านไปติดที่ต้นไม้ ต้นไม้ต้นนั้นก็จะเป็น ต้นไม้ประจำตัวคุณ และจะจัดทำรายงานภาพ